อาร์เน่ สลอต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยืนยันว่าจะไม่ปรับระบบหรือเปลี่ยนแนวทางการเล่นแบบพลิกโฉม แม้ทีมกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มย่ำแย่ที่สุดในรอบ 71 ปี ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกบุกเยือนเวสต์แฮมวันอาทิตย์นี้ พร้อมระบุว่าด้วยสภาพทีมปัจจุบัน “เขาแทบไม่มีกองหลังครบ 5 คน” สำหรับการเปลี่ยนไปใช้ระบบใหม่ และไม่มีเวลาในการซ้อมเพียงพอระหว่างโปรแกรมโหด 7 นัดใน 22 วัน

ลิเวอร์พูลแพ้ถึง 9 จาก 12 นัดหลังสุด ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ดรอป อิบราฮิมา โกนาเต้ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ฟอร์มตกหนัก รวมถึงเปลี่ยนสไตล์เพื่อหยุดความตกต่ำ แต่สลอตยืนยันว่าการเปลี่ยนแผนครั้งใหญ่ “ทำไม่ได้ และไม่ใช่คำตอบ”

สลอตอธิบายว่า
“ถ้าคำถามคือ ‘ผมควรเปลี่ยนระบบครั้งใหญ่ไหม?’ ถ้าอยากให้เล่นหลังห้าคน ปัญหาคือผมไม่มีแม้แต่กองหลังห้าคน ระบบปัจจุบันเหมาะกับนักเตะที่สุด พวกเขาเล่นระบบนี้แทบตลอดอาชีพ และเราแทบไม่มีเวลาให้ซ้อมเลย การเปลี่ยนแนวคิดฟุตบอลทั้งชุดจึงแทบเป็นไปไม่ได้เมื่อมีเกมทุกสองวัน”

เขายอมรับว่าจำเป็นต้องสับเปลี่ยนผู้เล่นเกือบทุกนัดเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้หลายครั้งต้องใช้ตัวเลือกที่ไม่พร้อม แต่ยังเชื่อว่าคุณภาพผู้เล่นในทีมจะพาลิเวอร์พูลกลับมาได้
“เหมือนแมนฯ ซิตี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วที่เคยชนะเพียง 1 จาก 13 นัด แต่สุดท้ายก็กลับมาลุ้นแชมป์ได้ เพราะพวกเขามีคุณภาพ และเราก็มีคุณภาพเช่นกัน”

กุนซือวัย 47 ปีย้ำว่า
“ทางออกเดียวคือผมและทีมต้องดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของนักเตะออกมาอีกครั้ง ถ้าเราไม่มีคุณภาพจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่เรามี—แค่ต้องทำให้พวกเขากลับมาอยู่ในจุดที่ดีอีกครั้ง”

สลอตยังเผยว่าในช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลผลงานย่ำแย่นี้ เขาได้รับกำลังใจจากคุณพ่อ อาเรนด์ มากกว่าปกติ
“คุณพ่อผมรู้ว่าผมกำลังลำบาก เขาจะไม่ซ้ำเติมผมตอนนี้ เขาซัพพอร์ตมากกว่าตอนที่เราชนะเสียอีก”

ลิเวอร์พูลหวังใช้เกมเยือนเวสต์แฮมเป็นจุดเริ่มต้นในการกลับมาคืนฟอร์ม หลังผลงานดิ่งลงต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา.