นิวคาสเซิ่ลเริ่มเกมได้ดีและขึ้นนำก่อนจาก ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่กำลังฟอร์มร้อนแรง ยิงเป็นประตูที่ 3 จาก 2 นัดหลัง ทว่าปัญหาความ “เมารถ” เกมเยือนที่ตามหลอกหลอนตั้งแต่ซีซันก่อนยังไม่เลือนหาย ทำให้โอกาสต้องไปลุ้นเพลย์ออฟเริ่มใกล้ความจริงขึ้นเรื่อยๆ

ฮาวยอมรับหลังเกมว่า “เจ็บปวดมาก เราคุมเกมในครึ่งแรกได้ดี แต่ช่วง 10 นาทีต้นครึ่งหลังทำลายทั้งหมด เรารับมือบรรยากาศกดดันได้ดี แต่พอเสียประตูแรกเราโฟกัสหลุด เราผิดหวัง แต่จะกลับมาให้ดีกว่าเดิม”

มาร์กเซยเริ่มตั้งเกมได้เรื่อยๆ ก่อนจะอาศัยจุดอ่อนแนวรับทีมเยือนและการเชื่อมเกมที่ยอดเยี่ยมของ เมสัน กรีนวูด ดาวซัลโวลีก เอิง ที่วางบอลให้ ออบาเมยอง ทดสอบ นิค โป๊ป หลายครั้ง จนสัญญาณความเปลี่ยนแปลงเริ่มชัดเจน

ครึ่งหลังเปิดมาเพียง 18 วินาที ทีมของ โรแบร์โต เด แซร์บี ก็ได้เฮ ออบาเมยองวิ่งไปรับบอลยาวจาก ดาร์ริล บาโกลา แข้งวัย 17 ปี ก่อนอาศัยจังหวะที่โป๊ปออกมาตัดพลาดแตะหลบและยิงมุมแคบสุดเฉียบเป็น 1-1

หลังจากนั้นไม่นาน แข้งกาบองก็จัดบทพระเอกต่อเนื่อง รับบอลจากการครอสของ ทิโมธี เวอาห์ ก่อนวอลเลย์เสาแรกชนิดโป๊ปรับไม่ทัน กลายเป็นประตูพลิกนำ 2-1 และเป็นสกอร์ตัดสินเกม แม้โจ วิลล็อค จะมีโอกาสยิงติดเซฟ เฆโรนิโม รุลลี ที่ศีรษะพันผ้าแน่น แต่ก็ไม่พอช่วยทีมเยือนรอดพ้นความพ่ายแพ้

ออบาเมยอง ที่ได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราวตอนถูกเปลี่ยนตัว กล่าวหลังเกมว่า “ผมยังรู้สึกยอดเยี่ยม แม้อายุจะ 36 แล้ว ผมอยากเล่นและยิงประตูในแชมเปียนส์ลีกให้มากกว่านี้”

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้มาร์กเซยกลับมามั่นคงในเส้นทางยุโรป ส่วน นิวคาสเซิ่ล แม้ยังมีลุ้นเข้ารอบ แต่ต้องรีบแก้ปัญหาฟอร์มนอกบ้านโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจต้องเดินเข้าสู่รอบเพลย์ออฟแบบไม่ตั้งใจ.