อองรี รับรางวัลเกียรติยศตลอดชีวิต BBC Sports Personality of the Year
เธียร์รี อองรี อดีตกองหน้าระดับตำนานของอาร์เซนอลและทีมชาติฝรั่งเศส เตรียมรับรางวัล Lifetime Achievement Award ในงาน BBC Sports Personality of the Year 2025 เพื่อยกย่องผลงานและอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ที่เขามีต่อวงการฟุตบอล
อดีตหัวหอกวัย 48 ปี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก จะเข้ารับรางวัลในงานประกาศผลซึ่งถ่ายทอดสดทาง BBC One และ BBC iPlayer ในคืนวันพฤหัสบดีนี้ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. (ตามเวลาอังกฤษ)
อองรีกล่าวถึงความรู้สึกว่า
“ฟุตบอลมอบทุกอย่างให้กับผม และผมก็ทุ่มเททุกสิ่งให้กับมัน การได้รับการยอมรับในฐานะส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ฟุตบอล พร้อมรางวัลเกียรติยศตลอดชีวิตนี้ เป็นสิ่งที่ผมจะไม่มีวันมองข้าม”
อองรีทำไป 228 ประตูจาก 377 นัดให้กับอาร์เซนอล จากสองช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับ “ปืนใหญ่” และก้าวขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร แซงหน้า เอียน ไรท์ ในปี 2005 เขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย และพรีเมียร์ลีก 2 สมัย รวมถึงฤดูกาลประวัติศาสตร์ 2003/04 ที่อาร์เซนอลคว้าแชมป์แบบไร้พ่ายในยุค “อินวินซิเบิลส์”
เจ้าของฉายา “คิง อองรี” คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 4 สมัย เทียบเท่าสถิติสูงสุด และติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ต่อเนื่องถึง 6 ฤดูกาล นอกจากนี้ เขายังครองสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลพรีเมียร์ลีก (20 ครั้ง) ร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์
ในระดับทีมชาติ อองรีเกิดที่ย่านเลส์ อูลิส ชานกรุงปารีส และเป็นกำลังสำคัญพาฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และแชมป์ยูโร 2000 เขายิงได้ 51 ประตูจาก 123 นัดให้ “เลส์ เบลอส์” ครองสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของชาติอยู่หลายปี ก่อนถูก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ แซงในปี 2022
อย่างไรก็ตาม ชื่อของอองรีก็เคยตกเป็นประเด็นอื้อฉาวจากจังหวะแฮนด์บอลในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 กับไอร์แลนด์ ซึ่งนำไปสู่ประตูชัยของฝรั่งเศสและสร้างความไม่พอใจอย่างหนักในวงการฟุตบอล
หลังอำลาอาร์เซนอลในปี 2007 อองรีย้ายไปบาร์เซโลนา และประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้า “ทริปเปิลแชมป์” ในปี 2009 ได้แก่ ลา ลีกา, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และโกปา เดล เรย์ โดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศยุโรป
ต่อมาเขาย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ กับนิวยอร์ก เรดบูลส์ ก่อนกลับมาอาร์เซนอลอีกครั้งด้วยสัญญายืมตัวในปี 2012 และยิงประตูชัยในเกมคัมแบ็กพบลีดส์ ยูไนเต็ด รวมถึงประตูสุดท้ายให้สโมสรในช่วงทดเวลาบาดเจ็บใส่ซันเดอร์แลนด์
หลังแขวนสตั๊ดในปี 2014 อองรีผันตัวสู่บทบาทกูรูลูกหนังและเคยทำงานกับ BBC Sport ในศึกยูโร 2016 จากนั้นก้าวเข้าสู่งานโค้ช โดยเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ในทีมชาติเบลเยียม ก่อนคุมโมนาโกและมอนทรีออล อิมแพกต์
ล่าสุด อองรีรับตำแหน่งกุนซือทีมชาติฝรั่งเศส รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในปี 2023 และพาทีมโอลิมปิกฝรั่งเศสคว้าเหรียญเงินในโอลิมปิก ปารีส 2024 หลังพ่ายสเปนในรอบชิงชนะเลิศ
อเล็กซ์ เคย์-เจลสกี ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ BBC กล่าวยกย่องว่า
“เธียร์รี อองรี นิยามความหมายของนักฟุตบอลยุคใหม่ เขาผสมผสานความสง่างาม ความฉลาด และความเฉียบคมอย่างไร้ปรานี อิทธิพลของเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประตูที่ทำได้ แต่ยังหล่อหลอมวัฒนธรรมฟุตบอลและแรงบันดาลใจให้กับผู้เล่นและแฟนบอลทั่วโลก”
ด้วยผลงานและมรดกที่ทิ้งไว้ในวงการลูกหนัง อองรีจึงคู่ควรอย่างยิ่งกับรางวัล BBC Sports Personality of the Year Lifetime Achievement Award ในปีนี้