แม้จะขาดสองตัวหลักอย่างดาวยิงตัวเก่ง ฌอง-ฟิลลิป มาตีต้า และวิงแบ็คพลังสูง ดาเนียล มูญอส แต่ทีมเยือนยังบุกมาชนะเชลบอร์นได้สบาย พร้อมการันตีเกือบแน่นอนว่าจะผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟคอนเฟอเรนซ์ ลีก

โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือพาเลซ เตรียมใช้ทีมชุดสำรองในเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับ คูพีเอส จากฟินแลนด์ เนื่องจากเดือนธันวาคมนี้ทีมมีโปรแกรมถี่ถึง 8 นัด แต่สิ่งที่ทำให้เขาพอใจคือผู้เล่นสำรองหลายรายโชว์ฟอร์มได้ดี โดยเฉพาะ คริสตานตัส ยูเช่ กองหน้าชาวไนจีเรียที่เพิ่งลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งที่สองหลังย้ายมาจากเกตาเฟ่ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ยิงประตูสุดสวยให้ทีมขึ้นนำในนาที 11 ขณะที่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ก็มาทำประตูต่อเนื่องเป็นเกมที่สอง

เชลบอร์น ทีมเจ้าบ้าน แม้จะจบฤดูกาลในลีกเมื่อเดือนก่อน แต่ยังไม่สามารถต้านทานพาเลซได้เลย โดยพาเลซมีผู้เล่นเพียง 15 คนที่พร้อมลงสนาม ยูเช่ยิงประตูสุดสวยให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม ก่อนที่เอ็นเคเทียห์จะมาทำประตูที่สองจากการปั่นบอลเข้าประตูโล่งหลัง ยูเช่ชนเสา

เกมแทบจะจบลงเมื่อ เยเรมี่ ปิโน่ จัดการยิงประตูสุดสวยให้พาเลซหนีเป็น 3-0 ก่อนพักครึ่ง กลาสเนอร์ถอดผู้เล่นตัวหลักอย่าง ปิโน่, คามาดะ และ วาร์ตัน ออกเพื่อพัก พร้อมส่ง วิล ฮิวจ์ส, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา และ โรแม็ง เอสเซ่ ลงสนาม

เอสเซ่เกือบทำประตูได้ทันที แต่ลูกยิงชนเสาและข้ามเส้นไปติดเซฟของ เวสเซล สปีล นายด่านบาเซิล ส่วนยูเช่ก็มีโอกาสอีกครั้งแต่ยิงพลาดไป แสดงให้เห็นว่าเขายังต้องพัฒนาต่อไป

ในช่วงท้ายเกม จัสติน เดฟินนี่ ต้องออกจากสนามเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้เบนจิ เคซีย์ ดาวรุ่งวัย 17 ปีได้ลงประเดิมสนาม แต่โดยรวมแล้วนี่เป็นคืนที่สมบูรณ์แบบสำหรับกลาสเนอร์และคริสตัล พาเลซ

ชัยชนะนัดนี้ทำให้พาเลซขึ้นนำตารางกลุ่มคอนเฟอเรนซ์ ลีก พร้อมสร้างความมั่นใจในการลุ้นเข้ารอบต่อไป และแสดงให้เห็นว่าทีมกำลังปรับตัวเข้ากับเวทียุโรปได้อย่างรวดเร็ว.