ฮาลันด์ซัดโทษพาแมนฯ ซิตี้บุกดับเรอัล มาดริด
อลอนโซ่จ่อขอบเหวหลังฟอร์มรูดต่อเนื่อง
เอร์ลิง ฮาลันด์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเป็นประตูชัย ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะเรอัล มาดริด 2-1 ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว ส่งให้ทีมของ ชาบี อลอนโซ่ ต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาล หลังเก็บชัยได้เพียง 2 จาก 8 นัดหลังสุดในทุกรายการ จนอนาคตเริ่มสั่นคลอนอย่างหนัก
มาดริดเริ่มดี แต่จบเจ็บ – ซิตี้พลิกแซงแบบมีคุณภาพ
เกมนี้ มาดริดออกสตาร์ตได้อย่างมั่นใจ และได้ประตูนำก่อนจาก โรดรีโก้ นาทีที่ 14 หลังทำชิ่งกับ จู๊ด เบลลิงแฮม ก่อนยิงเข้าเสาไกล ส่งแฟนบอลโลส บลังโกสคึกสุดขีด แต่ไม่นานเท่าไหร่ ความเปราะบางของแนวรับเจ้าถิ่นก็เริ่มเผยออกมา
แมนฯ ซิตี้เกือบยิงแซงทันที หากไม่ใช่เพราะ ธีโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟสองจังหวะจาก ฮาลันด์ และ เชอร์กี เอาไว้ แต่ท้ายครึ่งแรกจนถึงครึ่งหลัง ซิตี้ค่อย ๆ ครองเกมและกดดันได้ต่อเนื่อง
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล โหม่งเตะมุมให้กูร์กตัวส์ปัดออกตรงหน้า นิโก แอร์รีลีย์ ที่ซัดโล่ง ๆ เป็นประตูตีเสมอ 1-1 กลายเป็นประตูแรกของเจ้าหนูดาวรุ่งในแชมเปียนส์ลีก
รุดิเกอร์หลุดฟอร์ม – ฮาลันด์ไม่พลาดจุดโทษ
นาทีสำคัญของเกมมาถึงเมื่อ แอร์รีลีย์ เปิดบอลเข้าเขตโทษ ฮาลันด์พุ่งแย่งจังหวะก่อน อันโตนิโอ รุดิเกอร์ จะจับไม่อยู่จนล้มทับใส่ดาวยิงนอร์วีเจียน ผู้ตัดสินเช็ก VAR และให้จุดโทษทันที ฮาลันด์จัดการยิงเสียบมุมแบบนิ่งกริบ ซิตี้แซงนำ 2-1
รุดิเกอร์ยังมีจังหวะเสียวใกล้โดนใบเหลืองที่สอง ขณะที่เกมสวนกลับของซิตี้อันตรายเรื่อย ๆ โดยเฉพาะ เชอร์กี และ เยเรมี โดกู ที่สร้างความปั่นป่วนได้ตลอด
มาดริดเร่งท้ายเกมแต่ไม่คม – อลอนโซ่สถานการณ์น่าเป็นห่วง
ช่วงท้ายเกม มาดริดพยายามเร่งเต็มที่ เบลลิงแฮมพลาดโอกาสทองเมื่อชิพบอลแรงเกินไป ก่อนที่ วินิซิอุส จะมีสองจังหวะที่ฝั่งแฟนบอลต้องกุมหัว และจังหวะโขกชนคานของ เอนดริก ช่วงท้ายเกมยิ่งทำให้ความหวังของเจ้าถิ่นดับลงไปอีก
ผลการแข่งขันทำให้มาดริดของอลอนโซ่ยังจมอยู่ในวิกฤต ฟอร์มย่ำแย่ต่อเนื่อง แถม คีลิย็อง เอ็มบัปเป้ ยังไม่พร้อมลงเล่น แม้มีชื่อเป็นสำรองก็ตาม ขณะที่เสียงโห่จากแฟนบอลดังสนั่นหลังจบเกม บ่งบอกชัดว่าความเชื่อมั่นกำลังร่วงลงอย่างรวดเร็ว
ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พอใจผลงานอย่างยิ่ง หลังซิตี้คืนฟอร์มเก่งได้ทันเวลา และขยับเข้าใกล้การผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแบบมั่นคง.