ชัยชนะนัดนี้ทำให้อาร์เซนอลเป็นเพียงทีมที่ 5 จากอังกฤษที่ออกสตาร์ตรายการยุโรปด้วยชัยชนะ 6 นัดรวด และต้องการอีกเพียง 1 คะแนนจาก 2 นัดสุดท้ายเพื่อการันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งแทบจะแน่นอนแล้วด้วยประตูได้–เสียที่เหนือกว่าทุกทีม

มาร์ติเนลลี่สร้างประวัติศาสตร์ – ยิง 5 นัดติดใน UCL

มาร์ติเนลลี่ ไม่พลาดช่วงเวลาของตัวเองเช่นกัน เมื่อกดลูกปั่นโค้งสุดงามกลายเป็นผู้เล่นอาร์เซนอลคนแรกที่ยิงได้ 5 นัดติดต่อกันในแชมเปียนส์ลีก ขณะที่ กาเบรียล เฆซุส กลับมาลงสนามครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปีหลังเจ็บเข่า ทำให้คืนนี้ยิ่งสมบูรณ์แบบสำหรับทีมของ มิเกล อาร์เตต้า

อาร์เตต้า กล่าวชมลูกทีมว่า “ประตูของมาดูเอเก้คือความมหัศจรรย์ของนักเตะระดับท็อป การเลี้ยงหลบและยิงด้วยคุณภาพแบบนั้น รวมถึงลูกของมาร์ติเนลลี่ คุณต้องมีนักเตะแบบนี้เพื่อชนะในระดับสูงสุด”

ปืนใหญ่หมุนทีมแต่ยังเหนือกว่า – คลับ บรูช ต้านไม่อยู่

แม้ อาร์เซนอล จะโรเตชันหลายตำแหน่งเพราะ เดแคลน ไรซ์ ไม่ได้เดินทางจากอาการป่วย และ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ มีอาการเจ็บ แต่ยังคงคุมเกมเหนือกว่าเจ้าบ้าน ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนกุนซือเป็น อิวาน เลโก

คลับ บรูช พยายามสู้เต็มที่ โดย คาร์ลอส ฟอร์บส์ สร้างปัญหาให้แนวรับอาร์เซนอลหลายครั้ง แต่เกมรับของพวกเขาก็ยังรั่ว จนถูกอาร์เซนอลลงโทษอย่างเฉียบขาด ทั้งลูกยิงของมาดูเอเก้ ประตูโค้งของมาร์ติเนลลี่ และจังหวะที่เฆซุสเกือบยิงสุดสวยชนคาน

ท้ายเกม อาร์เซนอลส่งดาวรุ่งวัย 16 ปี มาร์ลี ซาแมน ลงสนาม กลายเป็นแข้งอายุน้อยสุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร ก่อนทีมเก็บสามแต้มสบาย ๆ และก้าวใกล้การเข้ารอบพร้อมความหวังลุ้นแชมป์ยุโรปมากขึ้นเรื่อย ๆ