ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว มีปัญหาชัดเจนกับการป้องกันลูกตั้งเตะ และรับมือเกมรุกของกริมาลโด้ไม่ได้ตลอดทั้งเกม แม้จะมีโอกาสพลิกแซงและเกือบปิดเกมได้ แต่ยังต้องออกจากสนามพร้อมความผิดหวัง และยังต้องลุ้นคว้าตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ผ่านเส้นทางเพลย์ออฟเป็นไปได้มากที่สุด

เกมรับล้มเหลวตั้งแต่ต้น – สาลิกาดงตามหลังเร็ว

นิวคาสเซิลเสียท่าอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 13 เมื่อ โรเบิร์ต อันดริช โหม่งจากลูกเตะมุม ก่อนบอลไปแฉลบ บรูโน่ กิมาไรส์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปเป็นอ own goal ให้เจ้าถิ่นนำ 1-0

สถานการณ์เกือบแย่กว่านั้นเมื่อ มาลิก เธียว ทำฟาวล์ แพทริค ชิค บริเวณเส้นเขตโทษ กรรมการให้จุดโทษทันที ก่อน VAR กลับคำเหลือเป็นฟรีคิกนอกเขต พร้อมใบเหลือง เธียว ซึ่ง ฮาว ยอมรับว่าเป็น “จังหวะที่โชคดี”

เลเวอร์คูเซนยังคงหาจังหวะจะแจ้งได้ จากการวิ่งสลับตำแหน่งของ ชิค, ทิลล์มัน และโปคู จนแนวรับสาลิกาดงปั่นป่วน แต่ รัมส์เดล ก็ยังช่วยทีมไว้ได้ โดยเฉพาะจังหวะปัดลูกโหม่งของ ควอนซาห์ แบบสุดปลายมือ

เฟล็กเค่นแจกของฟรี – กอร์ดอนยิงจุดโทษตีเสมอ

เริ่มครึ่งหลังเพียงไม่กี่นาที ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น มาร์ค เฟล็กเค่น ดันพลาดครั้งใหญ่ จังหวะเงอะงะหน้าประตูจนโดน นิคลาส โวลเทอมาด้า แย่งบอล ก่อนผลักล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าให้จุดโทษ และเป็น แอนโธนี่ กอร์ดอน ซัดไม่พลาด ตีเสมอ 1-1 พร้อมเป็นประตูที่ 5 ของเขาใน UCL ฤดูกาลนี้

กอร์ดอนเกือบทำให้ทีมพลิกแซงเมื่อยิงไปชนเสา ขณะที่ ลูวิส ไมลี่ ซึ่งลงมาแทน โชเอลินตอน ที่เจ็บ ก็โหม่งลูกเปิดของกอร์ดอนเข้าประตู แต่ถูกจับฟาวล์ไปก่อน

กริมาลโด้ดับฝันท้ายเกม – แบ่งแต้มสุดมัน

ท้ายเกมนิวคาสเซิลเริ่มคุมเกมได้และแฟนบอลเริ่มฉลอง แต่เพียงไม่นานทุกอย่างก็พังลงเมื่อ กริมาลโด้ ฉีกตัวหลุดเข้าเขตโทษ รับบอลจาก อิบราฮิม มาซ่า ก่อนยิงลอดแขน แอรอน รัมส์เดล เข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยเลเวอร์คูเซนตีเสมอ 2-2

ผลเสมอนี้ทำให้นิวคาสเซิลยังต้องเร่งเครื่อง หากหวังผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ ขณะที่เลเวอร์คูเซนเก็บแต้มสำคัญในบ้าน และยังอยู่ในเส้นทางลุ้นเข้ารอบเช่นกัน