ยิงเร็ว-ยิงไหล สเปนครองเกมตั้งแต่ต้น

เกมที่ทบิลิซิ สเปนใช้เวลาเพียง 11 นาทีในการเบิกสกอร์แรกจากลูกจุดโทษของ มิเกล โอยาร์ซาบัล หลังผู้เล่นเจ้าถิ่นทำแฮนด์บอลในเขตโทษ

จากนั้นนาที 22 มาร์ติน ซูบีเมนดี มิดฟิลด์อาร์เซนอลโชว์ความนิ่ง ลักไก่ยกบอลข้ามหัว จอร์จี มามาร์ดาชวิลี นายด่านลิเวอร์พูลพา “กระทิงดุ” นำ 2-0 ก่อนที่ เฟร์ราน ตอร์เรส อดีตกองหน้าแมนฯ ซิตี้ จะยิงเพิ่มเป็น 3-0 จากการจ่ายของโอยาร์ซาบัลก่อนพักครึ่ง

ครึ่งหลังนาที 63 ตอร์เรสเปิดบอลแบบโค้งสวยเข้าเขตโทษให้โอยาร์ซาบัลโหม่งตุงตาข่ายเป็นประตูที่สองของเจ้าตัว และเป็นประตูปิดกล่องให้สเปนถล่ม 4-0

สถิติสุดโหด: ยิง 19 ไม่เสียแม้แต่นัดเดียว

สเปนยังคงแสดงความเหนือชั้นในรอบคัดเลือกครั้งนี้ ชนะรวด 5 นัด ยิงรวม 19 ประตูโดยไม่เสียเลยแม้แต่ลูกเดียว รั้งอันดับ 1 ของแรงกิงฟีฟ่าอย่างสมศักดิ์ศรี

พวกเขาเกือบการันตีตั๋วทันที หากตุรกีสะดุดในเกมกับบัลแกเรีย แต่จุดโทษของ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู และการสกัดเข้าประตูตัวเองของ อาทานาส เชอร์เนฟ ช่วยให้ตุรกีชนะ 2-0 ทำให้ต้องไปลุ้นนัดสุดท้ายแทน

อย่างไรก็ตาม ด้วยประตูได้เสียที่ ตุรกีตามหลังสเปนถึง 14 ลูก ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องบุกไปถล่มสเปนถึง 7 ประตูในเซบียาเพื่อชิงตั๋วอัตโนมัติ—ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ