นอกจากฟอร์มส่วนตัวอันร้อนแรง บาเยิร์นยังเก็บชัย 16 จาก 17 เกมทุกรายการ และถูกยกให้เป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ทั้งลีก เยอรมนี และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ขณะเดียวกัน ทีมชาติอังกฤษก็ทำผลงานคัดบอลโลกได้สมบูรณ์แบบ ชนะ 7 นัดรวดและไม่เสียประตูแม้แต่นัดเดียว การันตีตั๋วลุยเวิลด์คัพตั้งแต่เกมที่ 6

เมื่อถูกถามถึงโอกาสคว้าบัลลงดอร์ เคนตอบด้วยทัศนคติแบบผู้นำว่า
“ผมจะยิง 100 ประตูในปีนี้ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้แชมป์แชมเปียนส์ลีกหรือฟุตบอลโลก คุณก็ไม่มีทางได้บัลลงดอร์… นักเตะทุกคนเหมือนกัน สิ่งสำคัญคือแชมป์ใหญ่ๆ เรากำลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีทั้งกับบาเยิร์นและอังกฤษ”

ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิล เคนเชื่อว่าทีมชาติอังกฤษกลับมามีวัฒนธรรมแห่งความมุ่งมั่นอีกครั้ง หลังช่วงเปลี่ยนผ่านเมื่อปีที่แล้วในยุคของผู้จัดการชั่วคราวอย่าง ลี คาร์สลีย์ ซึ่งมีปัญหาผู้เล่นถอนตัวหลายรายจนส่งผลต่อบรรยากาศทีม

ทูเคิลต้องการสร้างทีมที่ทุกคนพร้อมสู้เต็มที่ ไม่หลีกเลี่ยงการปะทะ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่แสดงความทุ่มเทอย่างแท้จริง เหตุการณ์ของ มาร์ค เกฮี ที่แม้บาดเจ็บจนแทบเดินไม่ได้แต่ยังเดินทางมารายงานตัวกับทีมชาติ ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของวัฒนธรรมใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้น

“ผมมั่นใจ 100% ว่าเรามีวัฒนธรรมทีมที่พร้อมลุ้นแชมป์โลก” เคนกล่าว “ทุกคนอยากอยู่กับทีม อยากมีส่วนร่วม แม้จะเจ็บเล็กน้อยก็ยังอยากมาเรียนรู้ เรากำลังเดินมาถูกทาง ทั้งในและนอกสนาม”

เคนในวันนี้เติบโตเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาเคยออกมาพูดถึงการวิจารณ์จากอดีตนักเตะทีมชาติในยูโร 2024 อย่างสุขุมแต่เฉียบคม และยังช่วยทูเคิลถ่ายทอดข้อความสำคัญแก่ทีม เช่นการกระตุ้นให้ทุกคนกลับมารายงานตัวครบทีมในแคมป์เดือนพฤศจิกายนหลังถล่มลัตเวีย 5-0

กัปตันทีมชาติอังกฤษยังพูดถึงบทบาทของ ฟิล โฟเด้น ที่ถูกใช้เป็น “ฟอลส์ไนน์” ในเกมพบเซอร์เบีย รวมถึงความสำคัญของลูกตั้งเตะในทัวร์นาเมนต์ใหญ่
“เราต้องมีเหมือนสมุดเพลย์บุ๊กแบบอเมริกันฟุตบอล ดูว่าแต่ละทีมประกบแบบไหน แล้วเลือกแผนที่เหมาะที่สุด ทีมที่เก่งลูกตั้งเตะ มักเป็นทีมที่ไปได้ไกลในทัวร์นาเมนต์”

สำหรับอังกฤษ นี่คือช่วงเวลาที่ความหวังถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง และภายใต้การนำของเคน—ทั้งในสนามและห้องแต่งตัว—พวกเขากำลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เตรียมล่าความสำเร็จระดับโลกที่รอคอย.