ความพ่ายแพ้นัดนี้ถือเป็นเกมที่ 5 จาก 6 นัดหลังสุดที่ “หงส์แดง” ไม่สามารถเก็บชัยได้ และตามหลังจ่าฝูงอาร์เซน่อลอยู่ถึง 8 คะแนน หลังผ่านไป 11 นัดของฤดูกาล

โรเบิร์ตสันกล่าวหลังเกมว่า “แน่นอนว่าเราทำให้ตัวเองต้องเจอกับเส้นทางที่ยากลำบากมากในการลุ้นแชมป์ แต่ผมคิดว่าทีมส่วนใหญ่ยังไม่ควรมองตารางคะแนนตอนนี้ เราต้องกลับมาเก็บแต้มอย่างสม่ำเสมอให้ได้ก่อน แล้วค่อยดูอีกทีหลังช่วงคริสต์มาสว่าเรายืนอยู่ตรงไหน”

“ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องแชมป์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอันดับไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือเราต้องกลับมาเอาชนะได้ต่อเนื่องก่อน ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน”

โรเบิร์ตสันยังพูดถึงจังหวะที่ประตูตีเสมอของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ถูก VAR ปฏิเสธ หลังผู้ตัดสินมองว่าเขายืนล้ำหน้าและรบกวนการมองเห็นของผู้รักษาประตู “ผมรู้สึกว่ามันเป็นประตูที่ใช้ได้ เพราะผมพยายามก้มหลบบอลแล้ว และผมก็ไม่ได้อยู่ในแนวการมองของนายทวาร มันเป็นจังหวะที่ตีความได้ยาก แต่เราก็ต้องยอมรับผลตัดสิน”

ดาวเตะวัย 30 ปี กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราต้องกลับไปอยู่ในมาตรฐานเดิม เหมือนในสองเกมก่อนที่เราชนะทั้งแอสตัน วิลล่า และเรอัล มาดริด ถ้าเราทำได้สม่ำเสมอ เราก็จะเก็บแต้มได้มากขึ้นแน่นอน”

ความพ่ายแพ้ต่อแมนฯ ซิตี้ ทำให้ฟอร์มของลิเวอร์พูลเริ่มน่าเป็นห่วง หลังแพ้เกมเยือน 4 นัดติดต่อกันในลีกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี โดยโปรแกรมต่อไป “หงส์แดง” จะต้องกลับมาเรียกความมั่นใจในเกมที่แอนฟิลด์หลังพักเบรกทีมชาติ.