เกมนี้ นิวคาสเซิ่ลที่ฟอร์มนอกบ้านย่ำแย่ต่อเนื่องออกนำไปก่อนจาก ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่หลอกแนวรับเบรนท์ฟอร์ดได้อย่างเหนือชั้นก่อนยิงลอดขา ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายด่านเจ้าถิ่น เข้าไปในครึ่งแรก เป็นเพียงจังหวะยิงตรงกรอบครั้งเดียวของทีมเยือนในทั้งเกม

แต่ความได้เปรียบอยู่ได้ไม่นาน เบรนท์ฟอร์ดครองบอลบุกต่อเนื่องและตีเสมอได้สำเร็จจากลูกโหม่งของ เควิน ชาเดอ ที่ขึ้นโหม่งจากลูกทุ่มไกลของ ไมเคิล คาโยเด ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของทีม “ผึ้งมหาภัย” ตลอดฤดูกาล โดยพวกเขาทำประตูจากลูกทุ่มได้มากกว่าสโมสรใดในลีกตั้งแต่ซีซั่นก่อน

ช่วงท้ายเกมเกิดเหตุการณ์พลิกผัน ดาน เบิร์น กองหลังร่างยักษ์ของนิวคาสเซิ่ล ทำฟาวล์ใส่ ดันโก้ อูอัตตาร่า ในเขตโทษ ถูกผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนาม ก่อนที่ติอาโก้จะรับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาด พาเบรนท์ฟอร์ดแซงนำ 2-1

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ติอาโก้คนเดิมเก็บบอลจากจังหวะสกัดผิดพลาดของแนวรับทีมเยือนแล้วซัดเข้าไปเป็นประตูปิดกล่อง 3-1 ส่งให้เขายิงในลีกไปแล้ว 8 ประตูในฤดูกาลนี้ และเป็นชัยชนะในบ้านเหนือทีมใหญ่อีกครั้งต่อจาก ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า

เอดดี้ ฮาว กุนซือนิวคาสเซิ่ล ยอมรับหลังเกมว่า “เรารู้ว่าฟอร์มแบบนี้ไม่ดีพอ เราทำผิดพลาดหลายจุด โดยเฉพาะในแดนกลาง และมันทำให้เราต้องรับแรงกดดันตลอด เราต้องกลับมารวมใจกันใหม่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”

ด้าน คีธ แอนดรูว์ส เฮดโค้ชเบรนท์ฟอร์ด กล่าวชื่นชมลูกทีมว่า “ครึ่งหลังเราทำได้ดีมาก ทั้งการครองบอล เกมรับ เกมรุก และลูกตั้งเตะ ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เราสมควรได้สามแต้มอย่างยิ่ง”

ผลการแข่งขันนี้ทำให้นิวคาสเซิ่ลไม่ชนะเกมเยือนในพรีเมียร์ลีก 9 นัดติดต่อกัน ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และยังคงอยู่ห่างโซนตกชั้นเพียง 2 คะแนน ส่วนเบรนท์ฟอร์ดเก็บเพิ่มแต้มสำคัญ รั้งกลางตารางอย่างมั่นใจ.