แมนฯ ซิตี้ ปะทะ ลิเวอร์พูล ศึกชี้ชะตา “ผู้ล่า” พรีเมียร์ลีก ที่เอติฮัด
ศึกใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในคืนวันอาทิตย์นี้ เมื่อ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเกมที่อาจกำหนดทิศทางการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้โดยตรง
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ ยอมรับว่าการได้ดวลกับลิเวอร์พูลในเกมที่เป็นนัดที่ 1,000 ของการคุมทีมในอาชีพนั้น เป็น “โชคชะตาของจักรวาล” หลังทั้งสองทีมผลัดกันครองความยิ่งใหญ่ในอังกฤษตลอดช่วงแปดปีที่ผ่านมา โดยแชมป์พรีเมียร์ลีกแปดสมัยหลังสุดตกเป็นของสองทีมนี้ — ซิตี้คว้าไปถึงหกสมัย ส่วนอีกสองสมัยเป็นของลิเวอร์พูล
แต่ปีนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อทั้งคู่กลายเป็น “ผู้ล่า” ที่ต้องตามหลังจ่าฝูงอาร์เซน่อลของ มิเกล อาร์เตต้า ที่กำลังมาแรง แม้ล่าสุด “ปืนใหญ่” จะพลาดท่าโดน ซันเดอร์แลนด์ ไล่ตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลา ทำให้ช่องว่างในตารางยังเปิดกว้าง
หากอาร์เซน่อลเก็บชัยชนะได้ในเกมนั้น พวกเขาจะทิ้งซิตี้ถึง 9 แต้ม และหนีลิเวอร์พูล 10 แต้ม ซึ่งอาจทำให้ทีมที่แพ้ในศึกที่เอติฮัดต้องเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางลุ้นแชมป์เริ่มหลุดลอย — แต่ผลเสมอที่สเตเดี้ยมออฟไลท์ทำให้โอกาสกลับมาสูสีอีกครั้ง
กวาร์ดิโอลากล่าวว่า “คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องชนะเกมของเราและรอจังหวะที่คู่แข่งพลาด” พร้อมยอมรับว่า อาร์เซน่อลภายใต้การนำของอาร์เตต้า “กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วง 2-3 ปีหลัง” แต่ย้ำว่าฤดูกาลยังอีกยาวไกล
ด้าน อาร์เน่ สลอต กุนซือลิเวอร์พูล ซึ่งนำทีมเอาชนะทั้ง แอสตัน วิลล่า และ เรอัล มาดริด ในสองเกมหลังสุด ก็เชื่อว่าเกมนี้สำคัญ แต่ไม่ถึงขั้นตัดสินทุกอย่าง
“เราต้องโฟกัสที่การพัฒนาและทำผลงานให้สม่ำเสมอ เกมกับซิตี้คือหนึ่งในความท้าทายที่ยากที่สุดของฤดูกาล แต่ก็เป็นเกมที่ทุกคนตั้งตารอ” สลอตกล่าว
หัวใจสำคัญของลิเวอร์พูลในเวลานี้คือแดนกลางที่กลับมาครบทั้ง ไรอัน กราเฟนเบิร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซบอสไล ซึ่งโชว์ฟอร์มโดดเด่นในเกมยุโรป โดยสลอตชมลูกทีมชาวฮังการีว่า “โดมินิคทำได้ยอดเยี่ยมทั้งเกมรุกและเกมรับ ตอนนี้เขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด”
ในอีกฝั่ง เป๊ป กำลังพึ่งพาความคมของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่เพิ่งยิงครบ 27 ประตูรวมทุกรายการในซีซั่นนี้ หลังเหมายิงใส่ ดอร์ทมุนด์ ในแชมเปียนส์ลีกกลางสัปดาห์ ทว่าดาวยิงนอร์เวย์ยังไม่เคยชนะลิเวอร์พูลในเกมพรีเมียร์ลีกเลย นับตั้งแต่ย้ายมาซิตี้ในปี 2022
การดวลกันระหว่าง “ฮาแลนด์” กับ “เฟอร์กิล ฟาน ไดค์” ถูกมองว่าเป็นจุดตัดสินเกมครั้งนี้ — การปะทะกันของพลังโจมตีที่หยุดยากกับแนวรับระดับโลกที่ยากจะผ่าน
สตีเฟน วอร์น็อค อดีตกองหลังลิเวอร์พูล วิเคราะห์ว่า “กุญแจของเกมนี้อยู่ที่แดนกลาง ลิเวอร์พูลต้องกดดันให้ซิตี้จ่ายบอลขึ้นหน้าได้ยาก เพราะถ้าปล่อยให้ ฟิล โฟเด้น หรือ ไรอัน แชร์กี้ มีพื้นที่วางบอลให้ฮาแลนด์ เกมจะอันตรายทันที”
ส่วน คริส ซัตตัน อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ มองว่าศึกนี้เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีส่วนตัว “ฟาน ไดค์ จะไม่ยอมให้ฮาแลนด์ผ่านไปง่าย ๆ เขามีศักดิ์ศรีในฐานะกัปตันทีม ส่วนฮาแลนด์เองก็กระหายที่จะพิสูจน์ตัวในเกมใหญ่แบบนี้ นี่คือการดวลระดับสูงสุดของพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง”
ศึก “เรือใบปะทะหงส์แดง” ที่เอติฮัดในวันอาทิตย์นี้ จึงไม่ใช่แค่เกมธรรมดา แต่คือการต่อสู้ของสองทีมผู้ยิ่งใหญ่ ที่ยังคงตามล่าความเป็นที่สุดบนเวทีลูกหนังอังกฤษอีกครั้ง.