เวสต์แฮมเริ่มเกมได้อย่างฝืดเคือง เสียประตูตั้งแต่นาทีที่ 4 จากจาค็อบ เมอร์ฟีย์ ส่งเสียงเชียร์ในลอนดอนสเตเดียมแทบไร้แรง แม้แฟนบอลจะผิดหวังอยู่ก่อนหน้า แต่ขุนค้อนค่อย ๆ กลับมามีจังหวะเกม และตีเสมอในนาที 30 เมื่อ ลูคัส ปาเกต้า ซัดจากนอกกรอบ บอลที่นิค โป๊บควรปัดออกกลับซุกก้นตาข่าย

ครึ่งหลัง บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคัก เสียง “Come on you Irons” ดังทั่วสนาม และเวสต์แฮมก็เล่นด้วยใจสู้ ก่อนขึ้นนำจากจังหวะสเวน บ็อตมันทำเข้าประตูตัวเอง หลังโดนแรงกดดันจากลูกครอสของอารอน วาน-บิสซาก้า

นิวคาสเซิลที่เพิ่งเปลี่ยนทีมเพื่อความสดจากเกมคาราบาวคัพกลับโชว์ฟอร์มจืด เอ็ดดี้ ฮาว ยอมรับหลังเกมว่า “ทีมไม่มีพลัง ไร้ความดุดัน นี่เป็นฟอร์มที่แย่ที่สุดในช่วงหลัง”

ขณะที่เวสต์แฮมปิดกล่องช่วงทดเจ็บ ทอมาช ซูเช็คตามซ้ำลูกสวนกลับจากจาร์รอด โบเว่นและปาเกต้า ตอกย้ำชัย 3-1 ให้แฟนบอลได้กลับมามีความหวังอีกครั้ง

เกมนี้นักเตะรุ่นพี่อย่างปาเกต้าและโบเว่นเล่นได้โดดเด่น ขณะเดียวกัน เฟร็ดดี้ พ็อตส์ ดาวรุ่งวัย 22 ปีลงตัวจริงครั้งแรกให้ทีมชุดใหญ่ 24 ปีหลังคุณพ่อ สตีฟ พ็อตส์ เคยรับใช้สโมสร และเกือบมีชื่อบนสกอร์บอร์ดแต่โดน VAR ริบคืน

ชัยชนะนี้ไม่เพียงเป็น 3 แต้มแรกของนูโน่ในรอบ 5 เกม แต่ยังเป็นชัยชนะเกมเหย้านัดแรกของเวสต์แฮมนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ พร้อมเพิ่มแต้มลุ้นหนีตกชั้นแบบมีแวว

สัปดาห์หน้า ขุนค้อนมีศึกสำคัญเปิดบ้านรับเบิร์นลีย์ ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของซีซั่น หากซิวชัยได้อีก กดดันทีมพื้นที่ปลอดภัยอย่างนิวคาสเซิลที่ฟอร์มเหยียบเบรกในลีก และยังไม่ชนะใครนอกบ้านฤดูกาลนี้

เวสต์แฮมเริ่มกลับมามีประกายความหวัง ส่วนสาลิกาดงจำเป็นต้องแก้จุดอ่อนด่วน หากไม่อยากให้ฤดูกาลแตกเป็นสองทางระหว่างฝันในบอลถ้วยและฝันร้ายในพรีเมียร์ลีก.