หลังเพิ่งแพ้แอสตัน วิลล่าเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน เกมนี้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเริ่มต้นระทึก เมื่อบอร์นมัธส่งบอลเข้าประตูตั้งแต่ไม่ถึงนาทีแรก แต่ถูกจับล้ำหน้า ก่อนที่ซิตี้จะตั้งเกมและออกนำในนาที 17 จากจังหวะที่ไรอัน แชร์กีโหม่งชงให้ฮาลันด์หลุดเดี่ยวซัดไม่พลาด

บอร์นมัธตามตีเสมอในนาที 25 จากลูกเตะมุมที่ไทเลอร์ อาดัมส์ซ้ำเข้าไป เป็นประตูแรกของมิดฟิลด์ทีมชาติสหรัฐในพรีเมียร์ลีก แต่ซิตี้ไม่เสียสมาธิ และฮาลันด์ก็ซัดประตูที่สองในนาที 33 หลังประสานงานกับแชร์กีอีกครั้ง ก่อนหลบผู้รักษาประตูและยิงโล่ง ๆ

แม้ฮาลันด์มีโอกาสทำแฮตทริก ทั้งลูกชิพและโหม่งช่วงครึ่งหลัง แต่ถูกปฏิเสธทั้งหมด กระทั่งนาที 60 นิโก โอไรลีย์เติมเกมจากแดนหลังซัดหาย ปิดกล่องชัยชนะให้เจ้าถิ่น 3-1

ชัยชนะนี้ทำให้ฮาลันด์ยิงถึง 13 ประตูในลีกฤดูกาลนี้ พร้อมสร้างสถิติเป็นนักเตะคนที่ 3 ที่ยิงสองลูกขึ้นไปในเกมพรีเมียร์ลีกที่เล่นในบ้าน 4 นัดติด เทียบเท่าร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และหลุยส์ ซัวเรซ ขณะเดียวกัน ฟิล โฟเด้นก็ลงสนามเกมลีกนัดที่ 200 ให้สโมสรในเกมนี้

ฝั่งบอร์นมัธ แม้เริ่มต้นได้หวิดเข้าฝัน และเล่นได้อย่างดุดันต่อเนื่องในฤดูกาลที่ทำผลงานดี แต่ก็ทนความเฉียบคมของซิตี้ไม่ไหว พ่ายเป็นนัดที่สองของซีซั่น และหยุดสถิติไร้พ่าย 8 นัดลง

ซิตี้เริ่มกลับสู่ฟอร์มลุ้นแชมป์อีกครั้ง หลังเข้ารูปเข้ารอยในสองเกมหลัง ส่วนบอร์นมัธยังมีสัญญาณที่ดีจากรูปเกมและความกล้าแลกหมัด ซึ่งน่าจะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อไปในฤดูกาลนี้.