ลินคอล์นสู้สุดใจ - เชลซีโดนกดตั้งแต่ต้นเกม

แม้จะเป็นการเจอกันระหว่างทีมระดับพรีเมียร์ลีกกับทีมจากลีกวัน แต่ลินคอล์น ซิตี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ตั้งแต่เสียงนกหวีดแรก โดยใช้ทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ บอลยาว และการทุ่มไกล เล่นงานแนวรับเชลซีอย่างหนัก

พวกเขาได้ประตูขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งแรกจาก ร็อบ สตรีท ที่ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ก่อนยิงผ่าน ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น เข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด

เกมในครึ่งแรก เชลซีที่เพิ่งแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาเยิร์น มิวนิก มาแบบต่อเนื่อง ดูไร้แรงจูงใจ ถูกลินคอล์นกดดันจนเสียรูปเกมไปหมด

มาเรสก้าดุสนั่นห้องแต่งตัว - ลูกทีมตอบสนองทันควัน

เอ็นโซ่ มาเรสก้า ยอมรับภายหลังว่าเขาจำเป็นต้อง “ขึ้นเสียง” กับลูกทีมในช่วงพักครึ่ง และกระตุ้นให้พวกเขาแสดงความมุ่งมั่นมากกว่านี้ โดยระบุว่าเกมแบบนี้เป็นบททดสอบสำคัญสำหรับนักเตะดาวรุ่งหลายคน

"บางคนไม่เคยเจอเกมแบบนี้มาก่อน — บอลยาว ดวลกลางอากาศ ทุ่มไกลเข้าเขตโทษแบบถี่ยิบ ถ้าเราต้องไปเยือนทีมลีกล่างอีกในอนาคต ประสบการณ์นี้จะมีค่ามาก"

พลิกเกมใน 5 นาที เชลซีโชว์คลาสทีมใหญ่

หลังโดนปลุกด้วยคำดุ เชลซีลงมาในครึ่งหลังด้วยพลังที่เปลี่ยนไป และใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการพลิกสถานการณ์

• นาทีที่ 47 ไทริค จอร์จ เก็บบอลจากการเคลียร์ไม่ขาดของแนวรับลินคอล์น ก่อนซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาไกลสุดสวย
  

• อีกไม่กี่อึดใจต่อมา เชลซีต่อบอลขึ้นมาทางซ้าย เฟร์นานเดซ เปิดทางให้ เจมี่ กิตเทนส์ ลากจี้ใส่แนวรับ ก่อนจ่ายให้ บัวโนโนเต้ ชิ่งกับจอร์จ แล้วกดประตูที่สองอย่างเยือกเย็น เป็นประตูแรกของเขากับทีมหลังย้ายมาจากไบรท์ตัน
  
  

จากนั้นแม้ลินคอล์นจะพยายามฮึดกลับ แต่แนวรับเชลซีเริ่มตั้งหลักได้ดี และประคองเกมจนจบ คว้าชัยไปได้แบบหืดจับ

สคูบาล่า : "เราทำให้เชลซีถ่วงเวลาได้ ยังไงก็น่าภูมิใจ"

ไมเคิล สคูบาล่า กุนซือลินคอล์น กล่าวหลังเกมด้วยความภูมิใจ แม้จะพลาดการสร้างประวัติศาสตร์:

"เราเปลี่ยนแผนมาเล่น 5-เพชร-1 และกดดันด้วยมิดฟิลด์เบอร์ 8 ได้ดีมากในครึ่งแรก เราสร้างปัญหาให้เชลซีอย่างแท้จริง และเราคือหนึ่งในไม่กี่ทีมที่ทำให้พวกเขาถ่วงเวลาในช่วงท้ายเกมได้"