เกมนี้ทั้งสองทีมแทบไม่มีโอกาสจะแจ้ง โดยช่วงต้นครึ่งแรกเจ้าถิ่นบอร์นมัธเกือบได้ประตูจากจังหวะ เดวิด บรูคส์ ลากเลื้อยก่อนเปิดให้ ไทเลอร์ อดัมส์ ซัด แต่โป๊ปใช้เท้าเซฟไว้ได้ ขณะที่นิวคาสเซิลมีจังหวะลุ้นจาก เจค็อบ เมอร์ฟี แต่ถูก จอร์จ เปโตรวิช นายทวารเจ้าถิ่นป้องกันเช่นกัน

ครึ่งหลังเกมยังอึดอัด นิค โวลเตอมาเด กองหน้าตัวใหม่ของนิวคาสเซิล มีจังหวะโดนเหนี่ยวเสื้อในเขตโทษแต่กรรมการไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ ส่วนฝั่งบอร์นมัธแฟนบอลโห่ลั่นเมื่อ มาลิค เทียว กองหลังทีมเยือนรอดการโดนใบเหลืองที่สองจากจังหวะทำฟาวล์ช่วงท้าย

ไคลเวิร์ตเกือบเป็นฮีโร่ให้เจ้าถิ่นในช่วงทดเจ็บ แต่ฟรีคิกของเขาถูกโป๊ปพุ่งปัดออกไป ทำให้จบเกมแบ่งแต้มเหมือนกับซีซันก่อน

วิเคราะห์นิวคาสเซิล: เกมรับแน่น แต่เกมรุกยังฝืด

ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ปรับมาเล่นกองหลังสามคน เน้นรัดกุมหลังเพิ่งแพ้บาร์เซโลนาในแชมเปียนส์ลีก อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่ยังคงอยู่ที่เกมรุก ซึ่งนัดนี้มีเพียงหนึ่งครั้งที่ยิงตรงกรอบ และสถิติชี้ว่า “สาลิกาดง” กลายเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ออกสตาร์ตด้วยผลเสมอ 0-0 สามเกมรวดในนัดเยือน

วิเคราะห์บอร์นมัธ: แข็งแกร่งเกินคาด

แม้เสียกองหลังตัวหลักถึงสามรายในช่วงซัมเมอร์ แต่ทีมของ อันโดนี อิราโอลา ยังทำผลงานยอดเยี่ยม แพ้เพียงลิเวอร์พูลทีมเดียว และนัดนี้ยังเล่นได้เหนือกว่านิวคาสเซิลในหลายช่วง เกมรับแน่นด้วยคู่หูใหม่ บาโฟเด ดิยากิเต้ และ อาเดรียง ทรูแฟร์ต ขณะที่แนวรุกยังสร้างโอกาสได้เรื่อย ๆ การมี 3 แต้มติดท็อปทรีถือว่าเป็นผลงานเกินความคาดหมาย