ยูไนเต็ดออกสตาร์ตได้อย่างดุดัน ก่อนที่โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูเชลซี จะถูกไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 4 ทำให้เจ้าถิ่นได้เปรียบอย่างมหาศาล และตอกย้ำด้วยสองประตูจากบรูโน่ แฟร์นันด์ส (น.14) และกาเซมิโร่ (น.37) ทว่าช่วงทดเจ็บครึ่งแรก กาเซมิโร่ก็ถูกใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ทำให้ผีแดงต้องเล่น 10 คนตลอดครึ่งหลัง และเกือบถูกไล่บี้จนวุ่นจากประตูตีไข่แตกของเทรเวอร์ ชาโลบาห์ ในนาที 80

หลังเกม อาโมริมกล่าวตรงไปตรงมาว่า
“เราเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง เล่นด้วยความดุดัน แม้ใบแดงจะช่วย แต่จริง ๆ แล้วเราครองเกมอยู่แล้ว เรานำ 2-0 แต่กลับทำให้เกมซับซ้อนขึ้นเอง กาเซมิโร่รู้ดีว่าเขาผิดพลาดและเจ็บปวดมากกว่าผม เขาเป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์มากพอจะไม่ทำแบบนั้น แต่เพราะเขาทุ่มเทเกินไป เราเลยต้องลำบากในช่วงท้ายเกม”

พร้อมกันนั้นกุนซือชาวโปรตุกีสยังย้ำว่า ทีมต้องไม่หยุดแค่ชัยชนะเหนือเชลซี
“เราต้องลืมความรู้สึกดี ๆ นี้ไป และกลับมามีความเร่งด่วนในการเอาชนะเกมถัดไป เพราะในสโมสรใหญ่ ๆ คุณไม่สามารถบอกว่า วันนี้ชนะแล้ว พรุ่งนี้ผ่อนคลายได้”

ด้านบรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ยิงครบ 100 ประตูให้สโมสร กล่าวว่า
“ทุกสามแต้มสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อเราไม่ได้ออกสตาร์ตฤดูกาลตามที่หวังไว้ เราต้องมองเกมต่อเกม และนัดหน้าก็สำคัญมหาศาลเช่นกัน”

ส่วนฝั่งเชลซี เอนโซ่ มาเรสก้า เฮดโค้ช ยอมรับว่าใบแดงเร็วของซานเชซทำลายแท็กติกตั้งแต่ต้น พร้อมเผยว่าคงดีกว่าหากเสียประตูก่อน มากกว่าจะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า ขณะที่โคล พาล์มเมอร์ ก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 20 เพราะอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบกำเริบอีกครั้ง

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ยูไนเต็ดได้โอกาสสร้างสถิติใหม่ภายใต้การคุมทีมของอาโมริม หากสามารถบุกไปคว้าสามแต้มจากเบรนท์ฟอร์ดสุดสัปดาห์หน้าได้.