เกมเพิ่งเริ่มได้เพียง 5 นาที เชลซีต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ โรเบิร์ต ซานเชซ ออกมาตัดฟาวล์ใส่ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ นอกเขตโทษจนถูกใบแดงไล่ออก ส่งผลให้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ต้องรีบแก้เกมถอดแนวรุกทั้ง เปโดร เนโต้ และ เอสเตวาโอ วิลเลี่ยน ออกไปเสริมเกมรับ แถมต่อด้วยการเสีย คอล์ ปาล์เมอร์ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อโคนขาอีก

ความได้เปรียบตัวผู้เล่นทำให้ ยูไนเต็ดกดดันต่อเนื่อง และมาได้ประตูขึ้นนำจากจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในนาที 14 ก่อนที่ กาเซมิโร่ จะโขกเพิ่มอีกลูกเป็น 2-0 ในนาที 21 แม้เจ้าตัวจะมาโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกก่อนพักครึ่ง แต่ทีมยังรักษาสกอร์นำไว้ได้

ครึ่งหลัง เชลซีพยายามเปิดเกมบุก และมาตีไข่แตกจากลูกโหม่งของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ นาที 80 แต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะสำคัญเป็นนัดที่สองของฤดูกาล ขยับขึ้นครึ่งบนของตาราง มีแต้มตามโซนท็อปโฟร์เพียง 2 คะแนน สร้างความมั่นใจให้กับลูกทีมของ รูเบน อโมริม ที่เพิ่งได้รับการการันตีตำแหน่งจากเจ้าของร่วม เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่เข้ามาชมเกมด้วยตัวเอง

ด้านเชลซี ยังคงไร้ชัยที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2013 และความพ่ายแพ้ครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำปัญหาเก่า ๆ โดยเฉพาะเกมรับและการตัดสินใจในสถานการณ์กดดัน อีกทั้งการเสียคีย์แมนอย่าง ปาล์เมอร์ ยังสร้างความกังวลให้แฟนบอลว่าอาจกระทบต่อฟอร์มทีมในโปรแกรมถัดไป.