เกมนี้ “หงส์แดง” ได้สองประตูตั้งแต่ครึ่งแรกจาก ไรอัน กราเวนเบิร์ช ที่วิ่งทะลุแนวรับไปยิงลูกเปิดของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้าไปอย่างเฉียบขาดในนาทีที่ 10 ก่อนที่เจ้าตัวจะโชว์ความนิ่งอีกครั้ง จ่ายทะลุช่องให้ ฮูโก เอกิติเก้ หลุดไปซัดลอดขา จอร์แดน พิคฟอร์ด ให้นำห่าง 2-0

อย่างไรก็ตาม เอฟเวอร์ตันกลับมามีชีวิตชีวาในครึ่งหลัง เมื่อ แจ็ค กรีลิช เลี้ยงฝ่าแนวรับฝั่งขวาของเจ้าถิ่น ก่อนเปิดไปให้ อิลิมัน เอ็นดิอาย จ่ายต่อให้ อิดริสซ่า เกเย ยิงเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดสวย ไล่มาเป็น 2-1 ในนาทีที่ 63 ทำให้เกมดาร์บี้กลับมาลุ้นเข้มข้นอีกครั้ง

ช่วงท้ายเกม ทีมเยือนบุกกดดันต่อเนื่อง โดย กรีลิช และ เอ็นดิอาย ทำให้แนวรับลิเวอร์พูลเจองานหนัก ขณะที่ อลิสซง ต้องออกแรงเซฟหลายครั้ง แต่สุดท้ายลูกทีมของ อาร์เน่ สลอต ยังประคองสกอร์จนจบ คว้าชัยดาร์บี้แมตช์ได้สำเร็จ

เอฟเวอร์ตันของ เดวิด มอยส์ แม้ยังไร้ชัยที่แอนฟิลด์ในพรีเมียร์ลีกต่อไป (21 เกม) แต่ฟอร์มครึ่งหลังแสดงให้เห็นสัญญาณเชิงบวก โดยเฉพาะเกมริมเส้นที่สร้างปัญหาให้ลิเวอร์พูลได้ไม่น้อย เพียงแต่ขาดกองหน้าตัวจบสกอร์คุณภาพสูง

สำหรับลิเวอร์พูล แม้เกมนี้จะมีโอกาสยิงตรงกรอบเพียง 3 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็น 2 ประตู และคว้า 3 คะแนนสำคัญได้อีกครั้ง ยืดสถิติชนะรวด 5 นัด นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อเนื่อง พร้อมความหวังว่าจะพัฒนาฟอร์มการเล่นให้เฉียบคมขึ้นในนัดต่อไป.