ถ้าใช้กล้องจุลทรรศน์แสกนให้ลึกลงไปอีกหน่อย พวกเราเพิ่งจะมีซูเปอร์สตาร์แค่ 15 คนเท่านั้น ตลอดระยะเวลา World Cup กว่า 92 ปี ที่สามารถส่งไอ้ลูกกลมๆพรรค์นี้ไปกองที่ก้นตาข่ายได้เกิน 10 ครั้ง ซึ่ง คิลิย็อง เอ็มบาปเป้ ทำสถิติเทียบเท่ากับ ‘ไข่มุกดำ’ เปเล่ ยอดตำนานดาวยิงที่ได้รับการขนานว่า เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่โลกเคยสัมผัสมา ไปเรียบร้อยแล้ว

กระผมขอกำหมัดหลวมๆไปเคาะประตูกะโหลก เตือนความจำสมองท่านผู้อ่านสักกะติ๊ด ‘น้องเป้’ เนี่ย เพิ่งจะอายุแค่ 23 ปี เองนะครับ…

ผมเคยเขียนงานเกี่ยวกับสตาร์เมืองน้ำหอมรายนี้ไปแล้วว่า เขาคือคนที่ทำให้ผมไขว้เขว ถึงวลีที่ว่า “อีกกี่สิบปีถึงจะมีคนมาแทน โด้-เมส ได้” ก็ไอ้เด็กนี่มันเริ่มวาดลวดลายศิลปะได้ราวกับเป็น ไมเคิ่ล กอร์ดอน แห่งวงการฟุตบอล มีทั้งความแข็งแกร่ง ดุดันในเกมรุก ครบเครื่องต้มพะโล้แบบไม่มีวัวผสม

อายุ 19 ขวบ ก็คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และพอได้โอกาสป้องกันแชมป์อีก 4 ปีถัดมา ก็ซัดแฮตทริคในรอบไฟน่อลด้วยสายตาพยัคฆ์ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ไร้ซึ่งความกังวลและความท้อถอย เชื่อเหลือเกินว่าอีกไม่นานเกินรอ รางวัลส่วนตัวอันทรงเกียรติของอาชีพพ่อค้าแข้ง อย่าง บัลลงดอร์ จะต้องตกเป็นเขาอย่างเป็นแน่แท้

จวบจนปัจจุบันนี้ (ยุคลุงตู่สิ้นปี 2565) หมอนี่กระซวกไส้ไปแล้วทั้งสิ้น 217 ประตู จาก 297 นัด ของระดับฟุตบอลอาชีพเทียร์สูงสุด ในขณะที่ ‘The GOAT’ หรือ ‘The Greatest of All Time’ อย่าง ลีโอเนล เมสซี่ ยังไม่สามารถบันดาลประตูได้ถึง 200 ประตูในช่วงขวบอายุเดียวกันเลย

ต่อให้คุณไม่ชอบหรือไม่อยากยอมรับในนิสัยส่วนตัวของ ‘เพชฌฆาตหยิ่งผยอง’ รายนี้ก็ตามที แต่สิ่งที่เขาแสดงให้ประจักษ์ในสนาม มันยากที่จะปฏิเสธถึง พรสวรรค์ที่ธรรมชาติมอบให้เขาเป็นของกำนัลจริงๆครับ.

เขียนโดย What The Fluke 

The Lite Team.