ซูเปอร์สตาร์ตัวน้อย อย่าง จูเลี่ยน อัลวาเรซ ผู้เคยสร้างความสั่นสะเทือนระดับ ‘สันนิบาตระยะสุดท้าย’ บนโลกโซเชี่ยล ด้วยการทำ 5 ประตูในนัดเดียว ให้กับ ริเวอร์เพลท ก่อนย้ายมาสวมยูฟอร์มของ ‘เรือรบพันล้าน’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเต็มตัว ซึ่งเมื่อคืนก็เพิ่งซัดเบิ้ลเบิกร่องให้ทีมบ้านเกิดอีกระลอก

แต่เหนือสิ่งอื่น สปอร์ตไลท์ทุกดวงต่างจับจ้องไปที่ การพาบอลตะลุยแบบเหนือธรรมชาติของ ลีโอเนล เมสซี่ ยอดนักเตะตลอดกาล ผู้ถวายพานแอสซิสต์ให้กับแข้งดาวรุ่งข้างต้น ยิ่งรู้สึกได้ว่า เป็นความโชคดีของคนธรรมดาตาดำๆอย่างพวกเราจริงๆ ที่ได้เห็น ‘พระเจ้า’ ของวงการกีฬาขาสั้นโลดแล่นอยู่แบบนี้

ผมพูดกับคนรอบข้างมาเสมอ ตั้งแต่ได้ทำการ Check In บนเมืองมนุษย์ในห้องคลอด ร้องอุแว้ๆ ให้คุณหมอไปทำสูติบัตร ผมยังไม่เคยเห็นนักเตะคนไหนมีฝีเท้าเก่งกาจเท่าเขามาก่อน

ซึ่งคำพูดนี้มักจะถูกปรามาสโดยคุณพ่ออยู่เป็นประจำ ในฐานะคนที่อาบน้ำร้อนมารุ่นเดียวกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า จึงไม่แปลกที่เขาจะยกย่อง ‘นักเตะหัตถ์พระเจ้า’ รายนี้เป็นพิเศษ

แต่สมัยนี้ วิดิโอเทปก็มีมาเป็นทศวรรษแล้วนา…ไหนจะเว็ปไซต์ชื่อดัง โลโก้สีแดง ที่มีการตัดคลิปรวมจังหวะโชว์แกร่งให้ดู…นี่ยังไม่รวม Footage บางส่วนที่คุณสามารถเข้าเลือกชมได้เพียงปลายนิ้ว ( Search หาในอากู๋นั่นเอง)

วิทยาศาสตร์การกีฬาก็ก้าวล้ำตามเทคโนโลยี ชนิดที่หายใจรดกลากเกลื้อนบนต้นคอ มันจะเป็นไปได้หรือที่ ลีโอเนล เมสซี่ ยังด้อยกว่าตำนานรุ่นพี่ร่วมชาติ อย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า ?  สุดท้ายเมื่อคุณพ่อผมขี้เกียจที่เปล่งเสียงออกมาด้วยความอ่อนโยนกับผม ท่านก็เปิดไพ่เด็ดใบสุดท้าย ที่ไม่ว่าใครโดนก็ลูกกะตามองบน ก้มหน้าต่ำ และทำตูดโด่ง

“มาราโดน่า พา อาร์เจนติน่า เป็นแชมป์โลกมาแล้วนะ!”

โอเค…งั้นปีนี้เราจะได้รู้กันว่า คำถามถึงการยอมรับในฝีเท้าของ ลีโอเนล เมสซี่ จะถึงคราวสิ้นสุดแล้วหรือยัง!?.