ทีมอคาเดมี่หนึ่งเดียวที่ยืนหยัดต่อสู้กับโลกที่ฟาดหัวด้วยเงิน

ไม่ใช่แฟนบอลทุกคนที่เชียร์ฟุตบอลเพราะทีมมีประวัติศาสตร์หรือถ้วยแชมป์หรอกครับ เราเห็นกันมาโดยตลอดอยู่แล้วว่า คุณค่าของลูกหนังมันมีอะไรที่จับต้องไม่ได้อยู่
บางครั้งการเป็นแฟนบอลของทีมเล็กๆ ที่สามารถเอาชนะทีมใหญ่ได้ คว้าแชมป์บอลถ้วยเป็นครั้งคราว หรือเอาแค่ปั้นเด็กในสังกัดขึ้นมาเติมเต็มช่องว่างในทีม ก็เป็นความอิ่มเอมใจให้คนท้องถิ่นหลงรักในปรัชญาแล้ว ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึง แอตเลติก บิลเบา ทีมดังจากแคว้นบาสก์ ที่สามารถไปไกลถึงแชมป์ลาลีก้า ได้มากถึง 8 สมัย
พวกเขามีนโยบายที่ชัดเจนมานานกว่า 110 ปี โดยไม่ได้คำนึงถึงการเติบโตในด้านธุรกิจกีฬาเป็นเป้าหมายหลัก พวกเขาเลือกที่จะเข้มงวดกับสิ่งที่อยากตอบแทนสังคมเสียมากกว่า ซึ่งนั่นคือการให้โอกาสดาวรุ่งที่เติบโตมากับสโมสร และสนับสนุนเด็กท้องถิ่น โดยไม่พึ่งพาคนนอกแคว้นบาสก์เลย
เคยมีการออกแบบสำรวจแล้วพบว่า กว่า 76% ของแฟนบอลบิลเบา เลือกที่จะยอมตกชั้น มากกว่าที่จะมีนักเตะนอกแคว้นบาสก์ลงเล่นให้กับทีม
นั่นเป็นสาเหตุของความเหนียวในด้านการเงินของ บิลเบา หากข้อเสนอที่ยื่นซื้อนักเตะจากทีมพวกเขาอยู่ต่ำกว่าค่าฉีกสัญญา พวกเขาก็จะไม่พร้อมฟังดีลนั้นๆ เนื่องจากได้ค่าตัวมา ก็เอาไปใช้จ่ายซื้อนักเตะนอกค่ายไม่ได้อยู่ดี ฉะนั้น หากคุณสนใจนักเตะของ ‘สิงห์สเปน’ แล้วล่ะก็ คุณต้องเบิกเช็คมหาศาลมากองบนโต๊ะฝ่ายบัญชีของพวกเขาแทนเท่านั้น
แต่ว่ากฏข้อนี้ก็ไม่ได้เข้มงวดจนน่าตกใจหรอก คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักเตะสัญชาติ ‘กระทิงดุ’ เพียงอย่างเดียว หากคุณอยากลงเล่นให้กับทีมนี้ คุณแค่ต้องเข้าร่วมกับทีม Athletic’s Youth หรือชุดอคาเดมี่ของพวกเขาต่างหาก เราจะเห็นตัวอย่างได้จาก อายเมอริค ลาปอร์ก ที่เกิดเป็นคนฝรั่งเศสแท้ๆ แต่มีสายเลือดชัดเจนจากคุณทวดของเขา หรือ อินากี้ วิลเลี่ยม ดาวยิงตัวเก่งของทีมชาติกาน่า ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจในฟุตบอลโลก 2022
ความมหัศจรรย์ของ บิลเบา ที่แบกปรัชญาหินนี้เอาไว้คือ พวกเขาเป็นหนึ่งในสามทีมของ ลาลีก้า ที่ไม่เคยตกชั้นเลยสักครั้ง ร่วมกับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า สองจักรพรรดิลูกหนังในยุโรป
การส่งลูกหม้อของสโมสรลงสนามในทุกนัด สร้างความแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง ระหว่าง ตัวนักเตะกับแฟนบอล ทุกๆนัดที่ได้ลงแข่งมันมีความหมายยิ่งกว่าที่ไหนๆ พวกเขาถูกเฝ้ามองและฟูมฟักมาเนิ่นนานกว่าจะถึงวันที่ลงไปแตะผืนหญ้าต่อคนนับหมื่นคน
“สิ่งที่ทำให้ บิลเบา แตกต่างจากที่อื่นคือ ปรัชญาของพวกเรา” กล่าวโดย โฆเซบา เอเซเบร์ริอา อดีตนักเตะและผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของทีมชุดยูธ
หากจะมีนักเตะคนใดในทีมต้องการย้ายออกเพื่อไปเติบโตในอาชีพค้าแข้ง พวกเขาจำเป็นต้องยื่นข้อเสนอที่เท่ากับค่าฉีกสัญญาหรือมากกว่า อย่างเช่นกรณีของ อันเดร์ เอร์เรร่า กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ฆาบี้ มาร์ติเนซ กับ บาเยิร์น มิวนิค ที่ล้วนแล้วแต่ต้องทุ่มเงินมหาศาลในช่วงจังหวะเวลานั้น
มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวและโลกแคบในสายตาของชาวโลกไปบ้าง เพราะทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันหมุนไปไกลกว่าการยึดถือปรัชญาคร่ำครึ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญในสายตาแฟนบอลตัวยงของพวกเขาเอง เพราะนี่คือความภาคภูมิใจที่นำทางสโมสรมา ความยิ่งใหญ่ในแบบของตนที่ไม่มีสโมสรไหนทำได้ ความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งที่ยากจะหาใครเทียบเคียง
ณ วันนี้ เราคงพอพูดได้เต็มปากว่า แอตเลติก บิลเบา คือผู้ชนะในท้ายที่สุด เป็นเพียงสโมสรเดียวในโลกที่ใช้นักเตะจากทีมอคาเดมี่กว่า 98% มีเพียงบางกรณีเท่านั้นที่ใช้นักเตะต่างชาติ หลักๆคือนักเตะสัญชาติอังกฤษ ซึ่งก็เป็นยุคแรกเริ่ม เพราะชาวอังกฤษเป็นคนนำฟุตบอลไปเผยแพร่ในดินแดนของพวกเขาเท่านั้นเอง
ไม่ว่าคุณจะเชียร์ฟุตบอลทีมไหน หรือลีคไหนในโลก ผมเชื่อว่าทุกคนล้วนอยากให้ทีมรักของตนดันเด็กอคาเดมี่ขึ้นมาเล่นกันทั้งนั้นแหละ มันเป็นสิ่งที่เอาไปโม้โอ้อวดได้ด้วยยังไงล่ะ
‘เฮ้ย…คนนี้ทีมตูปั้นมาตั้งแต่ 6-7 ขวบนะโว้ย’.
ขอบคุณข้อมูลจาก อาโนลด์ ลูอิส และ Transfermarkt
เขียนโดย What The Fluke
The Lite Team.

