ฮาคิม ซีเย็ค กับสถานที่ที่เขาควรอยู่

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก จะมีม้ามืดที่ไร้คนเหลียวอย่าง โมร็อกโก ร่วมโม่แข้งอยู่ด้วย
พวกเขาเริ่มต้นด้วยการยันเสมอรองแชมป์เก่าประจำทัวร์นาเม้นอย่าง โครเอเชีย ตามต่อด้วยการตบอดีตทีมเบอร์หนึ่งของโลกจากคะแนนสัมประสิทธิ์ ‘ช็อคโกแลต’ เบลเยี่ยม และปิดท้ายด้วยการขยี้สมันน้อย แคนาดา ปิดจ็อบเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอฟ
จากที่ใครเห็นก็ว่าแค่โชคดี…ดีแค่ไหน ก็สอยจุดโทษใส่ ‘กระทิงดุ’ สเปน อีกหนึ่งแชมป์โลกเมื่อทศวรรษก่อน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แบบไม่ต้องลุ้น 3-0 โดยได้ประตูจาก อับเดลฮามิด ซาบิรี่, ฮาคิม ซีเย็ค และ อัคราฟ ฮาคิมี่ เอาชนะการครองบอล 77% ของทีมชาติสเปน ที่ผ่านบอลกันมากถึง 1,041 ครั้ง
โฮ่ โฮ่ โฮ่! สุดท้ายเขานับกันที่จำนวนประตู และฝ่ายที่ผ่านบอลเพียง 323 ครั้ง ก็เข้าเส้นชัยไปแบบแสบสันต์
วันนี้ผมอยากพูดถึง สีหน้าและแววตาที่เปลี่ยนไปของ ‘พ่อมดแห่งอัมสเตอร์ดัม’ ฮาคิม ซีเย็ค ชายผู้จุดประกายฝันให้กับแฟนบอลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเขาเป็นทีมแอฟริกันหนึ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในช่วงเวลานี้ ฟอร์มการเล่นที่เอาแต่มหาสมุทร (ไม่เอาอ่าว) กับ เชลซี จนถูกดร็อปไปเป็นตัวสำรอง ได้รับโอกาสลงสนามเพียง 148 นาทีในเกมลีค คงต้องถูกนำมาพิจารณาใหม่
จ้าวแอสซิสต์จากเมืองดัตช์ หรือ เพลย์เมกเกอร์จอมเทคนิค ก็สุดตามแต่จะเรียก ซีเย็ค มีพร้อมทุกอย่างที่ตัวสร้างสรรค์เกมคนหนึ่งจะมี และเขาแสดงให้เห็นเพื่อตอกหน้า เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือคนปัจจุบันของ ‘สิงห์บลู’ เต็มๆดอก
“พรีเมียร์ลีกไม่เหมาะกับเขา ซีเย็ค มีพรสวรรค์มาก แต่เขาแค่ไม่เวิร์คกับการลงเล่นให้เชลซี” โจ โคล ตำนานของทีมให้ความเห็นส่วนตัวกับสื่อ
ผมไม่ได้รู้สึกเห็นด้วยกับอดีตสตาร์รูปหล่อชาวอังกฤษรายนี้สักเท่าไรนัก ก็คนไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย จะให้ไปหาความมั่นใจมาได้อย่างไร? ในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล เราก็พอเห็นกันอยู่แล้วว่า พ่อมดวัย 29 ปี มักทำประตูในจังหวะชี้เป็นชี้ตายให้กับทีมได้เสมอ หรือพูดง่ายๆว่า เกมตันๆเนี่ย เผลอแปปเดียว ตู้ม!
ดูเหมือนว่าปัญหาที่เป็นอยู่จะไม่ใช่ที่ตัวนักเตะสักเท่าไร มันน่ากลัวที่นักเตะเริ่มเห็นคุณค่าตัวเองขึ้นมาแล้วนี่สิ.
เขียนโดย What The Fluke
The Lite Team.

