หลาย 10 ปีที่ตัดสินไม่ได้…ปีนี้อาจได้รู้กัน

ตั้งแต่จำความได้จนถึงวันนี้ ผมหลงไหลในเกมลูกหนังมากว่า 20 ปีแล้ว ยังไม่เคยเจอนักฟุตบอลคนไหนเก่งไปกว่า ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลย
ด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ก้าวหน้าขึ้นมาก สภาพร่างกายของนักเตะในยุคปัจจุบันสามารถยืนระยะได้มากกว่าแต่ก่อนเป็นสิบไมล์ รู้ได้อย่างไรน่ะหรือ? ก็ดูเอาสิ ขนาดอายุ 35+ ปี ยังวิ่งโลดแล่นในสนามกันแจ้นไปหมด ทั้งๆที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงแขวนสตั๊ดไปตั้งแต่ 1-2 ปีก่อนหน้านี้แล้ว
ยิ่งกับมนุษย์ต่างดาวแบบ ลีโอเนล เมสซี่ ยิ่งไม่ต้องสงสัยอะไรมากเลย ทั้งโดนเสียบ โดนเตะ โดนกระชากทั้งตัว มันก็ไม่เคยเจ็บ ลุกขึ้นมาวิ่งต่อหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช่นเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ดูแลสภาพร่างกายตั้งแต่หัวจรดนิ้วก้อยเท้า ซึ่งปัญหาความฟิตที่เกิดขึ้นก็เพิ่งมาเป็นเอาตอนอายุ 38 ปี สำหรับการลงเล่นในเทียร์ลีคสูงสุดเท่านั้น
ทั้งคู่ต่างก้าวข้ามตำนานในอดีตด้วยสถิติที่ทำลายกันมาอย่างต่อเนื่อง การยิงประตูในชนิดที่โลกไม่เคยเห็นใครทำได้มาก่อน ยืนระยะความแข็งแกร่งเหนือกว่าใครในปฐพีนี้ นั่นคือสัญญาณจากพระเจ้าที่บ่งบอกเป็นนัยถึง การจุติของคู่แข่งตลอดกาลบนเมืองมนุษย์
การขาดทุนของคนดูเรื่องเดียวในฟุตบอลโลกหนนี้ คือ มันอาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่เราจะได้ดูเกม เวิร์ล คัพ ที่มี 2 ผู้เล่นระดับตำนานโลดแล่นอยู่ ซึ่งแชมป์มีเพียงหนึ่งเดียว…
คำครหาที่เหล่ากูรูฟุตบอลรุ่นเดอะมักใช้มากล่าวอ้าง คือ เปเล่ กับ มาราโดน่า ยังคงเป็นศิลปินสนามหญ้าที่ดีที่สุดตลอดกาล เพียงเพราะพวกเขาเคยคว้าแชมป์โลกมาแล้ว ในขณะที่ ‘สองตัวเทพยุคนี้’ ยังไม่เคยทำได้
ด้วยความที่ทั้งคู่อยู่คนละสายกัน อาร์เจนติน่า จับคู่มาเจอกับ เนเธอร์แลนด์ ในสายบน ส่วน โปรตุเกส จับคู่มาเจอกับ โมร็อกโก ในสายล่าง ทำให้เรามีสิทธิ์ที่จะได้เห็นการดวลกันระหว่าง CR7 และ LM10 ในนัดชิงชนะเลิศอยู่ ผู้ชนะจะถูกยกย่องให้เป็นตำนานตลอดกาลแห่งกีฬาขาสั้นชนิดนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
บทสรุปเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรไม่รู้ และมันถูกเขียนมาแต่แรกหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ แต่โลกฟุตบอลนี่แม่งโคตรบ้าจริงๆนะ.
เขียนโดย What The Fluke
The Lite Team.

