หรือพวกเอ็งแอบตกลงอะไรกันไว้แบบลับๆ

ชะรอยว่า สโมสรปลายทางของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม สำหรับการก้าวขึ้นบันไดในอาชีพค้าแข้ง จะหนีไม่พ้นทีมขวัญใจชาวไทยอย่าง ลิเวอร์พูล เสียแล้วสิ
เด็กคนหนึ่งลงเล่นให้กับ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ทีมในศึกแชมเปี้ยนชิพ อันเป็นลีคเทียร์ชั้นรองของพรีเมียร์ลีก ย้ายไป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2020 ช่วงจังหวะที่โควิดกำลังพังพินาศประเทศไทยอย่างเมามัน ด้วยสนนราคาค่าสินสอด 25 ล้านปอนด์ แบบไม่รวมแอดออน พร้อมกับการประกาศรีไทร์เบอร์เสื้อหมายเลข 22 ให้แฟนบอลด่ากันระงม
ส่วนเกรียนคีย์บอร์ดชาวไทยน่ะเหรอ?...แซะสิครับ รออัลไล
ก็แหม ลงสนามให้ทีมลีครองไปแค่ 44 เกม ต่อให้ใช้ข้ออ้างว่าเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นหลัง มันก็ไม่เข้าเค้าสักกะติ๊ดดด ถึงแม้ว่า น้องจู๊ดจะย้ายด้วยการทำลายสถิติดาวรุ่งวัย 17 ปี ก็ตามที
ผ่านไปได้ปีเดียว ไอ้เด็กนี่ตอกหน้าลุงๆน้าๆ ‘กุนซือหน้าคอม’ ซะหงายเงิบ เพราะน้องแกเล่นระเบิดฟอร์มกับ ‘เสือเหลือง’ ตั้งแต่ซีซั่นแรกที่ย้ายไป โดยลงสนามไปมากถึง 46 เกมส์ ในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลาง และจวบจนวันนี้ก่อนศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศห้ามดื่มเบียร์จะเริ่มต้นขึ้น จู๊ด ได้รับโอกาสไปกว่า 112 นัด ยิง 19 ประตู จ่าย 21 แอสซิสต์ ทั้งๆที่เพิ่งอยู่ในวัย หอ-มอ-สระออย ขึ้นได้ไม่นาน (19 ปี)
พอ กาตาร์ เปิดม่านให้รับชมการบรรเลงเพลงลูกหนัง เด็กหนุ่มจากสตัวร์บริดจ์ กลายเป็นนักเตะที่ลงสนามครบ 4 นัด และทำเรตติ้งสูงสุดให้กับ ‘ทรีไลอ้อน’ ที่ 7.72 จากการรายงานของ Whoscored ซึ่งถ้ามองภาพรวมแล้ว เขาถือเป็นอันดับที่ 4 ของนักเตะทุกคนในทัวร์นาเม้นต์นี้ ตามหลังเพียง ลีโอเนล เมสซี่, วอยเชียจ เชสนี่ และ โคดี้ กักโป้ เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้ภาพการแสดงความดีใจกับ จอร์แดน ‘เฮนโด้’ เฮนเดอร์สัน หลังพังประตูใส่ทีมชาติเซเนกัล มันช่างบาดลึกลงหัวใจแฟนบอลทีมอื่นที่ไม่ใช่ ‘หงส์แดง’ ยิ่งนัก
ความหวาดเยิ้มที่มองตากัน…สงสัย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มันคงเล็กเกินไปสำหรับเด็กชายที่ชื่อ จู๊ด เบลลิ่งแฮม เสียแล้ว.
เขียนโดย What The Fluke
The Lite Team.

